มือกลองต้องรู้ !! ก่อนเลือกซื้อ กระเป๋าสแนร์

สแนร์ (Snare Drum) เป็นหนึ่งในกลองที่สำคัญในชุดกลอง ทำหน้าที่สร้างเสียงที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นจังหวะหลักให้กับบทเพลง การดูแลรักษาสแนร์ให้อยู่ในสภาพดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ทำไมต้องใช้กระเป๋าสแนร์

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงต้องใช้กระเป๋าสแนร์ ในเมื่อสแนร์ก็ดูแข็งแรงดีอยู่แล้ว คำตอบก็คือ ถึงแม้สแนร์จะถูกสร้างมาอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็มีจุดที่บอบบางและอาจเสียหายได้ง่าย หากไม่ได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสม การใช้กระเป๋าสแนร์จึงเป็นเหมือนการลงทุนเพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาสภาพของสแนร์สุดรักของคุณให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

ประโยชน์ของการใช้กระเป๋าสแนร์

• ป้องกันการกระแทกและรอยขีดข่วน   กระเป๋าสแนร์ช่วยลดแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนย้าย และป้องกันรอยขีดข่วนที่อาจเกิดจากการเสียดสีกับวัตถุอื่น

• ป้องกันความชื้นและฝุ่นละออง  สแนร์ที่ทำจากโลหะหรือไม้อาจเกิดความเสียหายได้หากสัมผัสกับความชื้น ฝุ่นละออง หรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย กระเป๋าสแนร์จะช่วยปกป้องสแนร์จากปัจจัยเหล่านี้

• สะดวกในการขนย้าย  กระเป๋าสแนร์ส่วนใหญ่มักมีหูหิ้วหรือสายสะพาย ทำให้สะดวกในการพกพาสแนร์ไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น ห้องซ้อม สตูดิโอ หรือสถานที่แสดง

• เพิ่มความเป็นระเบียบ  กระเป๋าบางรุ่นมีช่องสำหรับเก็บอุปกรณ์เสริม เช่น ไม้กลอง กุญแจกลอง ช่วยให้จัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ

ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ใช้กระเป๋าสแนร์

• ตัวกลองเป็นรอย  การขนย้ายสแนร์โดยไม่มีกระเป๋า อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วน หรือรอยบุบบนตัวกลอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณขอบกลองหรือหลักกลอง

• หนังกลองเสียหาย   หนังกลองอาจฉีกขาดหรือเป็นรอย หากถูกกระแทกหรือกดทับอย่างรุนแรง

• ฮาร์ดแวร์เสียหาย  ชิ้นส่วนโลหะ เช่น หลักกลอง ขอบกลอง อาจเกิดการบิดเบี้ยวหรือเสียหาย หากไม่ได้รับการปกป้อง

• สแนร์ไวร์เสียหาย  สแนร์ไวร์ (Snare Wire) หรือที่เรียกกันว่า “แส้” คือเส้นลวดที่ขึงอยู่ด้านล่างของหนังกลองสแนร์ ทำหน้าที่สร้างเสียง “แซ่” ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นส่วนที่บอบบางและเสียหายได้ง่าย หากไม่มีการป้องกันที่ดี

• ความชื้นทำให้เกิดสนิม  ความชื้นอาจทำให้ชิ้นส่วนโลหะของสแนร์เกิดสนิม ส่งผลต่อคุณภาพเสียงและความทนทาน

วิธีการเลือกกระเป๋าสแนร์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

การเลือกกระเป๋าสแนร์ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้

พิจารณาจากขนาดของสแนร์

สิ่งสำคัญอันดับแรกคือต้องเลือกกระเป๋าที่มีขนาดพอดีกับสแนร์  กระเป๋าสแนร์ส่วนใหญ่จะระบุขนาดที่เหมาะสมไว้ เช่น 14″ x 5.5″ หรือ 14″ x 6.5″ ซึ่งหมายถึงเส้นผ่านศูนย์กลางและความลึกของสแนร์ การใช้กระเป๋าที่เล็กหรือใหญ่เกินไปอาจทำให้สแนร์เคลื่อนที่ไปมาภายในกระเป๋า และเกิดความเสียหายได้

พิจารณาจากวัสดุของกระเป๋า

วัสดุของกระเป๋าส่งผลต่อการป้องกัน น้ำหนัก และราคา ดังที่ได้กล่าวไปแล้วในหัวข้อประเภทของกระเป๋า หากต้องการการป้องกันสูงสุด ควรเลือก Hard Case แต่ถ้าต้องการความเบาสบายและราคาประหยัด Soft Case อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ส่วน Semi-Hard Case เป็นตัวเลือกที่อยู่ตรงกลาง

พิจารณาจากฟังก์ชันเสริม

ฟังก์ชันเสริมต่างๆ สามารถเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานกระเป๋าสแนร์ได้ เช่น 

ช่องเก็บอุปกรณ์เสริม

ช่องเก็บอุปกรณ์เสริมช่วยให้สามารถเก็บไม้กลอง กุญแจกลอง หรืออุปกรณ์อื่นๆ ไว้ในกระเป๋าเดียวกันกับสแนร์ได้ สะดวกต่อการหยิบใช้งานและป้องกันการสูญหาย

สายสะพาย

สายสะพายช่วยให้สามารถสะพายกระเป๋าสแนร์บนไหล่ได้ ช่วยให้พกพาสะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเดินทางไกล ควรเลือกสายสะพายที่ปรับระดับได้และมีแผ่นรองไหล่เพื่อความสบาย

คุณสมบัติกันน้ำ

คุณสมบัติกันน้ำช่วยป้องกันสแนร์จากความชื้นและฝน ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวกลองและฮาร์ดแวร์ได้ หากอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีฝนตกชุก หรือต้องเดินทางบ่อยๆ ควรเลือกกระเป๋าที่มีคุณสมบัติกันน้ำ

พิจารณาจากงบประมาณ

กระเป๋าสแนร์มีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับประเภท วัสดุ และฟังก์ชันเสริม กำหนดงบประมาณก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้กระเป๋าที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งาน

ประเภทของกระเป๋าสแนร์ (Snare Bag)

กระเป๋าสแนร์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ตามวัสดุและการป้องกัน ดังนี้

1.  กระเป๋าสแนร์แบบ Soft Case

Soft Case เป็นกระเป๋าที่ทำจากวัสดุอ่อนนุ่ม เช่น ผ้าไนลอนหรือผ้าใบ ภายในบุด้วยฟองน้ำหรือวัสดุกันกระแทก มีน้ำหนักเบาและราคาไม่แพง

ข้อดีของ Soft Case

• น้ำหนักเบาและพกพาสะดวก  เหมาะสำหรับการขนย้ายระยะสั้นๆ หรือการเดินทางที่ไม่สมบุกสมบันมากนัก

• ราคาประหยัด  เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด

• มีความยืดหยุ่น  สามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน

ข้อเสียของ Soft Case

• ป้องกันการกระแทกได้น้อย  ไม่เหมาะสำหรับการเดินทางไกลหรือการขนย้ายที่มีความเสี่ยงต่อการกระแทกสูง

• ไม่กันน้ำ  อาจไม่สามารถป้องกันสแนร์จากความชื้นหรือฝนได้

2.  กระเป๋าสแนร์แบบ Hard Case

Hard Case เป็นกระเป๋าที่ทำจากวัสดุแข็ง เช่น พลาสติก ABS หรือไฟเบอร์กลาส ภายในบุด้วยโฟมกันกระแทก ให้การปกป้องสูงสุด

ข้อดีของ Hard Case

• ป้องกันการกระแทกได้ดีเยี่ยม  เหมาะสำหรับการเดินทางไกลหรือการขนย้ายที่มีความเสี่ยงต่อการกระแทกสูง

• ทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน  สามารถใช้งานได้หลายปีโดยไม่เสื่อมสภาพ

• กันน้ำและป้องกันฝุ่น  ปกป้องสแนร์จากความชื้น ฝุ่นละออง และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

ข้อเสียของ Hard Case

• น้ำหนักมาก  อาจไม่สะดวกในการพกพา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงหรือผู้ที่มีรูปร่างเล็ก

• ราคาแพง  มีราคาสูงกว่ากระเป๋าแบบ Soft Case

• ขนาดใหญ่และเทอะทะ  อาจกินพื้นที่ในการจัดเก็บ

3.  กระเป๋าสแนร์แบบ Semi-Hard Case

Semi-Hard Case เป็นกระเป๋าที่ผสมผสานระหว่าง Soft Case และ Hard Case โดยใช้โครงสร้างแข็งบางส่วนและวัสดุอ่อนนุ่มบางส่วน เพื่อให้มีความแข็งแรงและน้ำหนักเบา

ข้อดีของ Semi-Hard Case

• น้ำหนักเบากว่า Hard Case  พกพาสะดวกกว่า แต่ยังคงให้การปกป้องที่ดี

• ป้องกันการกระแทกได้ดีกว่า Soft Case  ให้การปกป้องที่เหนือกว่า Soft Case

• ราคาปานกลาง  อยู่ระหว่าง Soft Case และ Hard Case

ข้อเสียของ Semi-Hard Case

• ป้องกันการกระแทกได้น้อยกว่า Hard Case  ยังไม่แข็งแกร่งเท่า Hard Case

• อาจไม่กันน้ำทุกรุ่น  ต้องตรวจสอบคุณสมบัติกันน้ำก่อนซื้อ

การดูแลรักษากระเป๋าสแนร์

การดูแลรักษากระเป๋าสแนร์อย่างถูกวิธี จะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาสภาพของกระเป๋าให้ดูใหม่อยู่เสมอ

วิธีการทำความสะอาด

• Soft Case  สามารถซักด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า โดยใช้น้ำสบู่อ่อนๆ และตากให้แห้งในที่ร่ม

• Hard Case และ Semi-Hard Case  ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดภายนอกและภายใน ห้ามใช้สารเคมีรุนแรงเพราะอาจทำให้วัสดุเสียหายได้

ข้อควรระวังในการใช้งาน

• หลีกเลี่ยงการวางกระเป๋าสแนร์ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือโดนแดดจัดเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ

• ไม่ควรใส่ของหนักเกินไปในกระเป๋า เพราะอาจทำให้กระเป๋าฉีกขาดหรือเสียรูปทรง

• ตรวจสอบซิปและสายสะพายให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ หากชำรุดควรซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่

กระเป๋าสแนร์ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยปกป้องสแนร์จากความเสียหายต่างๆ การเลือกกระเป๋าที่เหมาะสมควรพิจารณาจากขนาดของสแนร์ วัสดุ ฟังก์ชันเสริม และงบประมาณ การดูแลรักษากระเป๋าอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและทำให้สแนร์ปลอดภัย พร้อมใช้งานอยู่เสมอ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ตัดสินใจเลือกซื้อ Snare Bag ที่ตรงกับความต้องการและใช้งานได้อย่างมีความสุขกับการตีกลอง