ไมค์คอนเดนเซอร์  Condenser Microphone

ไมค์คอนเดนเซอร์เป็นไมโครโฟนที่ใช้แผ่นไดอะแฟรมบางและตัวเก็บประจุ (Condenser) ในการรับเสียง ทำให้สามารถจับเสียงได้ละเอียด คมชัด และไวต่อเสียงมากกว่าไมโครโฟนประเภทอื่น เช่น ไมค์ไดนามิก (Dynamic Microphone)

 

ไมค์คอนเดนเซอร์ นิยมใช้งานที่ต้องการคุณภาพเสียงสูง เช่น

🎙️ บันทึกเสียงร้องเพลง

🎙️ พอดแคสต์ (Podcasting)

🎙️ สตรีมมิ่ง (Streaming)

🎙️ บันทึกเสียงเครื่องดนตรีในสตูดิโอ

 

วิธีการเลือกซื้อไมค์คอนเดนเซอร์  มีปัจจัยในการพิจารณาต่างๆ ดังนี้

1. ประเภทของไดอะแฟรม (Diaphragm Type)

🔹 Large-Diaphragm Condenser   เหมาะกับเสียงร้อง พากย์เสียง ให้เสียงอุ่น หนา

🔹 Small-Diaphragm Condenser  เหมาะกับเครื่องดนตรี เช่น กลอง อะคูสติกกีตาร์ ให้เสียงใส คมชัด

2. ทิศทางการรับเสียง (Polar Pattern)

🔸 Cardioid  รับเสียงจากด้านหน้าเป็นหลัก ตัดเสียงรบกวนด้านข้างและด้านหลัง เหมาะสำหรับร้องเพลง พอดแคสต์

🔸 Omnidirectional   รับเสียงรอบทิศ เหมาะกับบันทึกเสียงในห้องที่มีเสียงสมดุล

🔸 Bidirectional (Figure-8)   รับเสียงจากด้านหน้าและด้านหลัง เหมาะกับการสัมภาษณ์แบบนั่งตรงข้ามกัน

🔸 Multi-Pattern   ปรับเปลี่ยนทิศทางการรับเสียงได้

3. แหล่งจ่ายไฟ (Power Requirement)

ไมค์คอนเดนเซอร์ส่วนใหญ่ต้องใช้ Phantom Power 48V จาก

✅ Audio Interface

✅ มิกเซอร์ (Mixer)

✅ พรีแอมป์ (Preamp)

หากต้องการใช้งานง่ายกับคอมพิวเตอร์ อาจเลือก ไมค์คอนเดนเซอร์แบบ USB ที่มี Audio Interface ในตัว

4. การเชื่อมต่อ (Connection Type)

🔹 XLR  ให้คุณภาพเสียงสูง ต้องใช้ Audio Interface หรือ Mixer

🔹 USB   ใช้งานง่าย เสียบเข้าคอมพิวเตอร์ได้เลย

5. ช่วงความถี่ (Frequency Response)

🔹 หากใช้สำหรับ ร้องเพลงหรือพากย์เสียง ควรเลือกช่วงความถี่ที่ตอบสนองได้ดีในย่านกลางถึงสูง

🔹 หากใช้สำหรับ เครื่องดนตรี ควรเลือกไมค์ที่สามารถจับเสียงได้แม่นยำในทุกย่านความถี่