แทมบูรีนคืออะไร? (What is a Tambourine?)
แทมบูรีนเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเคาะจังหวะ (Percussion instrument) ที่มีลักษณะเด่นด้วยรูปทรงกลมแบน มีฉิ่งโลหะขนาดเล็กหรือกระพรวนติดอยู่รอบวง เครื่องดนตรีชนิดนี้สามารถสร้างเสียงได้หลากหลายผ่านการเขย่า การตี หรือการถู ทำให้แทมบูรีนเป็นเครื่องดนตรีที่มีความยืดหยุ่นสูงในการใช้งาน
วัสดุและส่วนประกอบของแทมบูรีน
แทมบูรีน ประกอบด้วยส่วนสำคัญหลายส่วน โดยแต่ละส่วนมีหน้าที่และความสำคัญแตกต่างกัน ดังนี้
-
กรอบ (Shell) วัสดุทำจากไม้ พลาสติก หรือโลหะ วัสดุไม้ ให้เสียงที่อบอุ่นเป็นธรรมชาติ พลาสติกมีน้ำหนักเบาและทนทาน ส่วนโลหะให้เสียงที่สดใสกังวาน
-
ฉิ่งหรือกระพรวน (Jingles) ทำจากโลหะทองเหลืองหรือนิกเกิล มีลักษณะเป็นแผ่นกลมคู่ที่สั่นกระทบกันเมื่อมีการเคลื่อนไหว
-
หนัง (Head) ในแทมบูรีนแบบมีหนัง จะใช้หนังสัตว์หรือวัสดุสังเคราะห์ขึงตึงบนกรอบ เพื่อสร้างเสียงทุ้มเมื่อตี
เสียงของแทมบูรีน เสียง “กรุ๋งกริ๋ง” ที่เป็นเอกลักษณ์ มาจากไหน?
เสียงเอกลักษณ์ของแทมบูรีนเกิดจากการทำงานร่วมกันของส่วนประกอบต่างๆ ฉิ่งโลหะที่ติดรอบวงจะกระทบกันเมื่อมีการเขย่าหรือเคลื่อนไหว ทำให้เกิดเสียง “กรุ๋งกริ๋ง” ที่สดใส ความถี่และความดังของเสียงขึ้นอยู่กับ
-
จำนวนและขนาดของฉิ่ง
-
วัสดุที่ใช้ทำฉิ่ง
-
ระยะห่างระหว่างฉิ่งแต่ละคู่
-
เทคนิคการเล่น
ประวัติและต้นกำเนิดของแทมบูรีน
แทมบูรีนมีประวัติย้อนไปไกลถึงสมัยโบราณ โดยพบหลักฐานการใช้งานในหลายอารยธรรม ดังนี้
-
อียิปต์โบราณ มีการค้นพบภาพวาดและรูปสลักแสดงการใช้เครื่องดนตรีคล้ายแทมบูรีนในพิธีกรรมทางศาสนา
-
กรีกโบราณ เรียกเครื่องดนตรีคล้ายแทมบูรีนว่า “tympanum” ใช้ในพิธีกรรมบูชาเทพเจ้า
-
ตะวันออกกลาง มีการใช้เครื่องดนตรีประเภท “frame drum” ที่พัฒนามาเป็นแทมบูรีนในปัจจุบัน
ประเภทของแทมบูรีน (Types of Tambourines)
แทมบูรีนแบบมีหนัง (Headed Tambourine) vs. ไม่มีหนัง (Headless Tambourine)
ข้อดี-ข้อเสีย และการใช้งานที่แตกต่างกัน
-
แทมบูรีนแบบมีหนัง (Headed Tambourine) ให้เสียงที่สมบูรณ์มากกว่าเนื่องจากมีทั้งเสียงทุ้มจากหนังและเสียงแหลมจากฉิ่ง เหมาะสำหรับการบรรเลงดนตรีคลาสสิกและการแสดงที่ต้องการความหลากหลายของเสียง อย่างไรก็ตาม ต้องดูแลรักษามากกว่าเนื่องจากหนังอาจได้รับผลกระทบจากความชื้นและอุณหภูมิ
-
แทมบูรีนแบบไม่มีหนัง (Headless Tambourine) มีน้ำหนักเบากว่าและดูแลรักษาง่ายกว่า เหมาะสำหรับการเล่นดนตรีป็อป ร็อค หรือการเชียร์กีฬา แต่มีข้อจำกัดด้านความหลากหลายของเสียงเมื่อเทียบกับแบบมีหนัง
ขนาดของแทมบูรีน
แทมบูรีนโดยทั่วมีมีขนาด 6 นิ้ว, 8 นิ้ว และ 10 นิ้ว ขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภท
-
แทมบูรีนขนาด 6 นิ้ว เหมาะสำหรับเด็กหรือผู้เริ่มต้น น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ใช้งานง่ายในการสร้างจังหวะพื้นฐาน
-
แทมบูรีนขนาด 8 นิ้ว เป็นขนาดยอดนิยมสำหรับนักดนตรีทั่วไป ให้ความสมดุลระหว่างความดังของเสียงและความสะดวกในการถือ
-
แทมบูรีนขนาด 10 นิ้ว เหมาะสำหรับการแสดงบนเวทีหรือการบรรเลงในวงดนตรีขนาดใหญ่ ให้เสียงที่ดังชัดเจน แต่อาจหนักเกินไปสำหรับการเล่นต่อเนื่องเป็นเวลานาน
แทมบูรีนแบบพิเศษ
-
แทมบูรีนแบบฉิ่ง 2 ชั้น มีฉิ่งติดทั้งด้านในและด้านนอก ทำให้เสียงมีความหนาแน่นและซับซ้อนมากขึ้น เหมาะสำหรับดนตรีที่ต้องการเสียงที่เต็มอิ่ม
-
แทมบูรีนแบบติดกับขาตั้ง (Mounted Tambourine) ออกแบบมาสำหรับกลองชุดโดยเฉพาะ ช่วยให้นักดนตรีสามารถเล่นกลองและแทมบูรีนพร้อมกันได้
วิธีเล่นแทมบูรีน (How to Play the Tambourine)
เทคนิคพื้นฐาน การใช้ฝ่ามือ นิ้ว หรืออุปกรณ์อื่นๆ ในการตี
-
การตี (Striking) จับแทมบูรีนด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด ใช้มือข้างถนัดตีที่หนัง (กรณีแบบมีหนัง) หรือขอบ สามารถใช้นิ้วหรือฝ่ามือตีเพื่อสร้างเสียงที่แตกต่างกัน
-
การเขย่า (Shaking) จับแทมบูรีนในแนวตั้งแล้วเขย่าขึ้นลงเพื่อให้ฉิ่งกระทบกัน ควบคุมความแรงเพื่อสร้างจังหวะที่ต้องการ
-
การสั่น (Tambourine Rolls) เทคนิคขั้นสูงที่ใช้การหมุนข้อมือเพื่อสร้างเสียงต่อเนื่อง สามารถทำได้ทั้งแบบช้าและเร็ว
แทมบูรีนในดนตรีและการใช้งานอื่นๆ
ดนตรี วงโฟล์คซอง, ดนตรีคลาสสิก, ป๊อป, ร็อค
แทมบูรีนมีบทบาทสำคัญในดนตรีหลากหลายแนว โดยในดนตรีโฟล์คซอง แทมบูรีนช่วยสร้างความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง มักใช้เทคนิคการเขย่าเบาๆ ประกอบจังหวะเพลง ส่วนในดนตรีคลาสสิก แทมบูรีนถูกใช้ในวงออร์เคสตราเพื่อเพิ่มสีสันให้กับบทประพันธ์ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องการสร้างบรรยากาศคึกคัก หรือเน้นจังหวะที่ชัดเจน
ในวงดนตรีป๊อปและร็อค แทมบูรีนมักถูกใช้เพื่อเสริมจังหวะหลักของเพลง บางครั้งอาจใช้ในท่อนสร้อยเพื่อเพิ่มพลังให้กับดนตรี การใช้แทมบูรีนในดนตรีสมัยใหม่มักผสมผสานเทคนิคการเล่นต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับบทเพลง
การเชียร์กีฬา สร้างบรรยากาศและความสนุกสนาน
แทมบูรีนเป็นเครื่องดนตรีที่นิยมใช้ในการเชียร์กีฬา เนื่องจากให้เสียงที่โดดเด่น สามารถสร้างจังหวะที่กระตุ้นความตื่นเต้นได้ดี แฟนกีฬามักใช้แทมบูรีนประกอบการร้องเพลงเชียร์ สร้างบรรยากาศที่สนุกสนานในสนาม การใช้แทมบูรีนในการเชียร์มักเน้นการเขย่าและตีจังหวะแบบง่ายๆ แต่ให้พลังเสียงที่ดังชัดเจน
การศึกษา ใช้ในการเรียนการสอนดนตรีสำหรับเด็ก
วิธีการสอนดนตรีแบบ Orff Approach ที่พัฒนาโดย Carl Orff ให้ความสำคัญกับการใช้เครื่องดนตรีประเภทเคาะจังหวะ รวมถึงแทมบูรีน ในการพัฒนาทักษะทางดนตรีของเด็ก วิธีการนี้เชื่อว่าการเรียนรู้ดนตรีควรเริ่มจากจังหวะพื้นฐานที่เด็กสามารถสัมผัสและเข้าใจได้ง่าย
การใช้แทมบูรีนในการสอนดนตรี ช่วยพัฒนาทักษะหลายด้าน เช่น
-
การรับรู้จังหวะและความสามารถในการรักษาจังหวะ
-
การพัฒนาการประสานงานระหว่างมือและสายตา
-
การฝึกสมาธิและความอดทน
-
การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ผ่านการสร้างจังหวะใหม่ๆ
ความพิเศษของแทมบูรีนอยู่ที่ความเรียบง่ายแต่ทรงประสิทธิภาพในการสร้างจังหวะและสีสันให้กับบทเพลง ไม่ว่าจะเป็นการตี การเขย่า หรือการสั่น แต่ละเทคนิคล้วนสร้างเสียงที่แตกต่างกันออกไป การเลือกแทมบูรีนที่เหมาะสมกับการใช้งาน พร้อมทั้งการฝึกฝนอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถดึงศักยภาพของเครื่องดนตรีชิ้นนี้ออกมาได้อย่างเต็มที่

